ในยุคที่ทุกคนพูดถึง Work-Life Balance สิ่งหนึ่งที่หลายองค์กรลืมไปคือ…
“รอยยิ้มของคนทำงาน ไม่ควรรอถึงวันศุกร์”
หลายบริษัทอยากเห็นทีมงานมีความสุข
แต่ความจริงคือ ความสุขในที่ทำงาน ไม่ได้เกิดจากอีเมลขอบคุณ
หรือปาร์ตี้ปลายปีเพียงครั้งเดียว
รอยยิ้มแบบที่เกิดขึ้นได้ทุกวัน มาจาก “สภาพแวดล้อมที่ดีจริง”
ตั้งแต่แสงธรรมชาติที่ส่องถึง โต๊ะทำงานโล่งตา
มุมพักที่ไม่อึดอัด
ไปจนถึง เก้าอี้สำนักงานดี ๆ ที่ไม่ทำให้ปวดหลังตั้งแต่ยังไม่เที่ยงวัน
หรือ เก้าอี้เพื่อสุขภาพ ที่ช่วยซัพพอร์ตทั้งหลังและคอเวลานั่งนาน ๆ
พื้นที่ดี…คือจุดเริ่มต้นของทีมที่อยากมาทำงาน
ตอนนี้หลายองค์กรกำลังพยายามชวนคนกลับเข้าออฟฟิศ
แต่สิ่งที่คนทำงานต้องการมากกว่า “นโยบายบังคับ” คือ…
“ออฟฟิศที่เขาอยากกลับมาด้วยตัวเอง”
พื้นที่แบบนั้นไม่จำเป็นต้องหรูหรือไฮเทค
แต่ต้อง “เข้าใจชีวิตจริงของพนักงาน”
อย่างเช่น
-
แสงไฟที่ไม่แยงตา
-
อุณหภูมิห้องที่ไม่ร้อนจนหงุดหงิด
-
โซนแชร์ไอเดียที่เข้าถึงง่าย
-
และมุมโฟกัสงานที่เงียบพอให้คิดงานยาว ๆ
รวมถึง เก้าอี้เพื่อสุขภาพ หรือ เก้าอี้สำนักงานที่ซัพพอร์ตทั้งหลังและคอ
ซึ่งงานวิจัยจาก Cornell University ยังระบุด้วยว่า
(การนั่งเก้าอี้ที่ปรับได้ตามสรีระ ช่วยลดแรงกดทับ ลดอาการล้า และเพิ่มสมาธิได้)
ที่มางานวิจัย
ดีไซน์ออฟฟิศจึงไม่ใช่เรื่องของความสวย
แต่คือ ดีไซน์ของความสุขและประสิทธิภาพ ที่เกิดขึ้นในทุกๆ วัน
Workplace Design = Team Wellbeing
ออฟฟิศที่ดีไม่จำเป็นต้องใหญ่หรือใช้งบเยอะ
แต่ควรเริ่มจากการจัดพื้นที่ให้ รองรับการทำงานจริง
เพราะ Productivity ไม่ได้มาจากแค่คอมดี อินเทอร์เน็ตเร็ว
แต่สภาพแวดล้อมรอบตัว เช่น
-
เก้าอี้สำนักงานที่ปรับระดับได้
-
พื้นที่นั่งที่กระจายตัวดี
-
อากาศสะอาด
-
แสงที่เหมาะกับการจดจ่อ
สิ่งเหล่านี้มีผลโดยตรงต่อพลังงาน อารมณ์ และความคิดสร้างสรรค์ของทีม
และทุก “ตารางเมตรที่ออกแบบด้วยความตั้งใจ”
ก็คือการลงทุนในความสุขของคนทำงานทั้งหมด

