เชื่อไหมว่า เก้าอี้ทำงานเพื่อสุขภาพ จะสร้างพลังบวกให้ผู้นั่งได้

เก้าอี้ทำงานเพื่อสุขภาพ ตัวช่วยลดออฟฟิศซินโดรม เพิ่มพลังกายพลังใจในการทำงาน

การนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์หรือการทำงานนั่งโต๊ะอาจเป็นงานในฝันของใครหลายคน แต่รู้ไหมว่าหากสภาพแวดล้อมไม่ถูกสุขลักษณะ การนั่งทำงานผิดท่า ไปจนถึงการเลือกเก้าอี้ทำงานไม่เหมาะสม ล้วนส่งผลกระทบทั้งต่อร่างกายและจิตใจ ดังนั้นการเลือกเก้าอี้ทำงานเพื่อสุขภาพที่ดีจึงมีส่วนช่วยเพิ่มพลังบวกให้กับผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก แต่จะเป็นเพราะอะไรเราลองมาดูกัน

ออฟฟิศซินโดรม ปัญหาร้ายของคนทำงานที่ส่งผลทั้งร่างกายและจิตใจ

ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndorme) เป็นโรคยอดฮิตของคนรุ่นใหม่วัยทำงาน เพราะเกิดขึ้นจากไลฟ์สไตล์ทั้งด้านการใช้ชีวิตและการทำงานประจำวัน โดยเฉพาะปัจจุบันที่โลกเข้าสู่ยุค 5G การทำงานและการติดต่อสื่อสารผ่านคอมพิวเตอร์ แท็บเลต และมือถือ ล้วนส่งผลต่อการเกิดออฟฟิศซินโดรมทั้งสิ้น หากใครเริ่มมีอาการปวดหลัง ปวดคอ บ่า ไหล่ ปวดข้อมือ ตาล้า นั่นแหละคือสัญญาณเตือนว่าออฟฟิศซินโดรมเริ่มถามหาแล้ว

อาการออฟฟิศซินโดรมมีหลายระดับ อาการเริ่มต้นโดยทั่วไปจะเริ่มจากอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเมื่อเราอยู่ในอิริยาบถผ่อนคลาย ระหว่างนวด หรือยืดเหยียดกล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าว แต่หากมีการเปลี่ยนอิริยาบถความรู้สึกปวดเมื่อยจะลดลง หากไม่ได้ใช้งานเก้าอี้ทำงานเพื่อสุขภาพที่เหมาะสมจะทำให้เกิดอาการสะสมไปเรื่อย ๆ จนส่งผลร้ายตามมา

ระดับต่อมาจะเป็นการบาดเจ็บซ้ำ ๆ เกิดจากการนั่งทำงานท่าเดิมเป็นระยะเวลานานหรือการนั่งที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ทำให้เกิดการปวด เกร็ง ชา กล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ แม้จะไม่ได้อยู่ในเวลาทำงานความเจ็บปวดก็ไม่ลดลง นอกจากนี้อาจมีอาการปวดล้ากล้ามเนื้อดวงตาและไมเกรนร่วมด้วย อาการดังกล่าวจะหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนอาจกลายเป็นอาการเรื้อรังรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน หากอาการดังกล่าวเกิดขึ้นควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน

ออฟฟิศซินโดรมและผลกระทบต่อจิตใจ

อาการออฟฟิศซินโดรมทั้งในระยะเริ่มต้นและระยะเรื้อรังอาจนั้นส่งผลเสียทั้งต่อสุขภาพร่างกาย และกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน นอกเหนือจากนั้นยังส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานและจิตใจของเราอย่างที่ใครหลายคนคาดไม่ถึง
อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อทำให้เกิดความอ่อนล้าในการทำงาน สมาธิลดลง จิตใจว่อกแว่กไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ทำให้เกิดความเครียด สุขภาพจิตเสีย หากอากาศออฟฟิศซินโดรมอยู่ในระยะเรื้อรัง อาจเกิดไมเกรนรุนแรงจนรบกวนการใช้ชีวิตได้ ดังนั้นผู้ป่วยออฟฟิศซินโดรมขั้นรุนแรงจึงมักมีภาวะเครียด ซึมเศร้าอ่อน ๆ ร่วมด้วย

นอกจากนี้ในด้านการทำงาน ผู้ที่มีอาการออฟฟิศซินโดรมมักมีปัญหาไม่อยากทำงาน ความคิดสร้างสรรค์ลดลง คิดงานไม่ออก ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง และยังส่งผลต่อองค์กร และเพื่อนร่วมงานโดยตรง

แนวทางป้องกันออฟฟิศซินโดรม สร้างพลังกายพลังใจให้พร้อมทำงาน

เมื่อร่างกายอ่อนล้า อ่อนเพลีย ก็ย่อมส่งผลถึงจิตใจด้วย เพราะฉะนั้นหากต้องการสร้างพลังบวกให้กับตัวเอง ก็ต้องเริ่มจากการป้องกันออฟฟิศซินโดรมก่อน โดยการเลือกเก้าอี้ทำงานเพื่อสุขภาพที่เหมาะสม เก้าอี้ที่เราเลือกต้องออกแบบมาให้รองรับสรีระ สามารถปรับระดับความสูงได้ เบาะนั่งสบายไม่นิ่มเกินไป สามารถรองรับและกระจายน้ำหนักตัวได้ดี นอกจากนี้เก้าอี้ทำงานเพื่อสุขภาพควรมีพนักพิงที่รองรับแผ่นหลัง มีขนาด ความลึก และที่วางแขนในระดับที่เหมาะสม เพื่อให้นั่งทำงานได้อย่างเป็นธรรมชาติมากที่สุด

เก้าอี้ทำงานเพื่อสุขภาพจะช่วยให้เราสามารถนั่งทำงานได้อย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยปรับท่านั่งให้ถูกต้อง ทำให้เรานั่งหลังตรง เท้าวางราบ ปล่อยเข่างอตามธรรมชาติไม่ฝืน นอกจากนี้การนั่งเต็มเบาะยังช่วยให้นั่งสบายไม่ปวดหลัง เอว และสะโพกด้วย การนั่งทำงานอย่างสบาย ผ่อนคลาย จะช่วยให้เรามีสมาธิจดจ่อกับงานมากขึ้น ช่วยให้มีความคิดสร้างสรรค์ ทำงานได้ลื่นไหล อีกทั้งยังช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพ ช่วยเติมเต็มทั้งพลังกายและพลังใจให้กับคนวัยทำงาน

สิ่งที่ควรทำควบคู่กับการใช้เก้าอี้ทำงานเพื่อสุขภาพ

นอกจากการใช้เก้าอี้ทำงานเพื่อสุขภาพในการปรับท่านั่งให้ถูกต้องและลดความเสี่ยงในการเกิดออฟฟิศซินโดรมเพื่อทำให้พลังกายและพลังใจในการทำงานของเราเต็มเปี่ยมแล้ว ยังมีพฤติกรรมอื่น ๆ ที่ควรทำควบคู่กันไปเพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงออฟฟิศซินโดรม สุขภาพดีทั้งกายและใจ

• หาเวลาพักระหว่างทำงานบ้าง
  ระหว่างทำงานควรหาเวลาพักเพื่อเปลี่ยนอิริยาบถ เช่น ลุกขึ้นเดิน ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ ดื่มน้ำ หรือโยคะเบา ๆ เราควรหาเวลาพักอย่างน้อยชั่วโมงละครั้งเพื่อลดความจึงเครียดของกล้ามเนื้อและลดความอ่อนล้าของร่างกาย
• พักสายตาทุก 30 นาที
  ในเวลาทำงานเราควรหาเวลาพักสายตาทุก 30 นาทีโดยการหลับตาอยู่นิ่ง หากมีเก้าอี้ทำงานเพื่อสุขภาพอาจนอนเอนหลังเพื่อพักสายตาก็ได้ รวมถึงใช้วิธีมองไปจุดไกล ๆ หรือพื้นที่สีเขียวก็ได้เช่นกัน
• ออกกำลังกาย
  ออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อแก่นกลางลำตัวให้แข็งแรงเพื่อช่วยพยุงหลังและลำตัว ทำให้กล้ามเนื้อหลัง บ่า และไหล่ทนทานขึ้น ลดการเจ็บปวดที่อาจเกิดจากการทำงาน นอกจากนี้การออกกำลังกายยังช่วยลดความเครียดในชีวิตประจำวันได้ด้วย

• ปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการทำงาน
  นอกจากการเลือกเก้าอี้ทำงานเพื่อสุขภาพที่ดีแล้ว การเลือกโต๊ะทำงานที่มีขนาดพอดี ไม่สูงหรือต่ำเกินไป รวมถึงการเลือกอุปกรณ์อื่นอย่างที่วางเท้าก็มีส่วนช่วยทำให้สุขภาพกายและใจในการทำงานดีขึ้นเช่นกัน
• ปรับการวางคอมพิวเตอร์
  คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ทำงานชิ้นสำคัญที่ขาดไม่ได้ เราควรตั้งหน้าจอให้อยู่ระดับพอดีกับสายตา และอยู่ห่างจากผู้ใช้งานประมาณ 0.5 เมตร ส่วนคีย์บอร์ดและเมาส์ควรวางต่ำลงมาเล็กน้อย ขณะทำงานไหล่และแขนควรวางราบขนานกับ
• โต๊ะ ไม่ยกไหล่มากเกินไป
  จะเห็นว่าแค่เปลี่ยนมาใช้เก้าอี้ทำงานเพื่อสุขภาพก็ช่วยลดปัญหาสุขภาพได้หลายอย่าง อีกทั้งยังช่วยเพิ่มพลังบวก ทำให้มีสมาธิในการทำงานมากขึ้น ช่วยให้เรานั่งสบาย ผ่อนคลาย และทำงานได้สะดวกขึ้น ส่งผลดีทั้งต่อร่างกายและจิตใจ ให้คนวัยทำงานมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งกว่าเดิม

มองหาเก้าอี้ทำงานเพื่อสุขภาพสำหรับคนวัยทำงาน มีให้เลือกมากกว่าที่ MODENA

ใครกำลังมองหาเก้าอี้ทำงานเพื่อสุขภาพที่ออกแบบมาเพื่อสรีระคนไทยและคนเอเชียโดยเฉพาะ เลือกซื้อที่ MODENA สะดวก คุ้มค่า มั่นใจกว่า เพราะเราคือผู้เชี่ยวชาญตัวจริงด้านเก้าอี้เพื่อสุขภาพ เก้าอี้เกมมิ่ง และเก้าอี้สำนักงาน มีหลากหลายรูปแบบ ดีไซน์ และฟังก์ชันให้เลือก

พร้อมเทคโนโลยีเฉพาะตัวที่เป็นเอกสิทธิ์ของเราอย่าง เทคโนโลยี Airflow ที่ช่วยระบายอากาศ และเทคโนโลยี S-Curve ที่ออกแบบมาเพื่อให้รองรับความโค้งของแผ่นหลังโดยเฉพาะ เปลี่ยนทุกการทำงานให้สบาย มีความสุข และเต็มไปด้วยพลังบวกยิ่งกว่าที่เคย

สนใจเก้าอี้ทำงานเพื่อสุขภาพ ติดต่อเราได้ที่

https://modenafurniture.com
Line Official : @modenafurniture
โทร. 0-2184-5145, แฟกซ์. 0-2729-5008
Fanpage : https://www.facebook.com/modenafurniturethailand
Instagram : https://www.instagram.com/modenafurniture
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCJqAnRj0iSji4NfdkdS1QRA
Email : info@modenafurniture.com