Work Anxiety กำลังคืบคลาน? 5 วิธีสร้างสมดุลใจให้ไม่พัง แม้งานไม่มั่นคง

work-anxiety-5-ways-balance-your-mind

ในยุคที่หลายคนต้องเจอกับคำว่า “เลิกจ้าง ปรับโครงสร้าง ลดทีม” แทบทุกไตรมาส
ความไม่แน่นอนในโลกการทำงานกลายเป็นเรื่องปกติใหม่ที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้

แต่สิ่งที่ไม่ควรปล่อยผ่านเลยคือ — “ใจของเราเอง”
เพราะเมื่อความกังวลค่อย ๆ สะสม มันอาจกลายเป็นสิ่งที่เรียกว่า Work Anxiety หรือ “ภาวะวิตกกังวลจากการทำงาน” ที่กัดกินทั้งแรงกายและแรงใจโดยไม่รู้ตัว


️ Work Anxiety คืออะไร?

Work Anxiety คือความรู้สึกวิตกกังวล ความไม่มั่นคง หรือกลัวผิดพลาดที่เกิดขึ้นจาก “งาน”
ไม่ว่าจะเป็น

  • กลัวงานไม่ดีพอ

  • กลัวโดนลดตำแหน่งหรือเลิกจ้าง

  • กลัวอนาคตที่ยังไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร

มีงานวิจัยจาก Harvard Business Review ระบุว่า คนทำงานกว่า 60% รู้สึกเครียดจากความไม่มั่นคงของงาน และกว่า 40% มีอาการนอนไม่หลับเพราะกังวลเรื่องงาน (แหล่งอ้างอิง)

และสิ่งที่น่ากลัวคือ… ความเครียดเรื้อรังนี้มักเริ่มจาก “เรื่องเล็ก ๆ” เช่น ปวดหลัง ปวดหัว หรืออ่อนเพลียระหว่างวัน


5 วิธีสร้างสมดุลใจให้ไม่พัง แม้งานไม่มั่นคง


‍♀️ 1. เริ่มต้นวันด้วย “เวลาให้ตัวเอง”

ก่อนเปิดคอมพ์ตอบอีเมล ลองใช้เวลา 10–15 นาทีเช้า ๆ เพื่ออยู่กับตัวเอง
อาจจะจิบกาแฟเงียบ ๆ หรือยืดตัวเบา ๆ เพื่อรีเซ็ตสมองให้พร้อมเริ่มวันใหม่

งานวิจัยจาก University of California พบว่า คนที่เริ่มวันด้วยการหายใจลึก ๆ หรือทำสมาธิสั้น ๆ มีระดับความเครียดระหว่างวันลดลงกว่า 35% เพราะสมองถูกตั้งค่าใหม่ให้อยู่ในโหมด “ตั้งรับอย่างมีสติ”


2. จัดมุมทำงานให้ “สบายกาย สบายใจ”

อย่ามองข้ามสิ่งที่อยู่รอบตัว เพราะ “สิ่งแวดล้อม” มีผลโดยตรงต่อความเครียด

ลองจัดโต๊ะให้โล่ง เปลี่ยนมุมมองให้มีแสงธรรมชาติ หรือเลือก เก้าอี้ทำงาน ที่รองรับสรีระให้ถูกหลัก จะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย และลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ

เก้าอี้ออฟฟิศที่ดีควรมีพนักพิงโค้งตามหลัง เบาะหนานุ่ม และสามารถปรับระดับได้ เพื่อให้คุณนั่งได้นานโดยไม่ปวดหลัง — เพราะ “สุขภาพกายดี” คือฐานของ “สุขภาพใจดี” เช่นกัน

ลองดูเก้าอี้ทำงานคุณภาพที่ออกแบบเพื่อคนทำงานจริงจังได้ที่ เก้าอี้ทำงาน
หรือถ้าคุณทำงานในออฟฟิศใหญ่ ลองดูรุ่น เก้าอี้สำนักงาน ที่เหมาะกับพื้นที่ร่วมก็ได้เลย


️ 3. วางแผนแบบ “พอประมาณ” ไม่ต้องคุมทุกอย่าง

เมื่อโลกเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน การพยายาม “ควบคุมทุกอย่าง” ยิ่งทำให้เครียด

ลองเปลี่ยนจาก “การวางแผนระยะยาวที่ตึงเกินไป” มาเป็น “วางเป้าหมายสั้น ๆ รายสัปดาห์” แทน
เช่น ตั้งเป้าแค่ 3 สิ่งสำคัญต่อวัน — ทำให้เสร็จ แล้วพัก

เทคนิคนี้ถูกเรียกว่า Micro Goal Setting ที่นักจิตวิทยาใน Stanford University แนะนำว่าเป็นวิธีช่วยลดความเครียดจากการทำงานในยุคเปลี่ยนผ่าน เพราะสมองจะได้รู้สึกถึง “ความสำเร็จเล็ก ๆ” อยู่ตลอด


☕ 4. สร้าง “จังหวะพัก” ระหว่างวัน

ไม่ใช่ทุกคนจะมีเวลาไปคาเฟ่ หรือพักเบรกยาว ๆ ได้ แต่ “พักใจเล็ก ๆ” ก็เพียงพอแล้ว

อาจเป็นแค่การลุกขึ้นยืดตัวทุก 2 ชั่วโมง
หรือเอนหลังไปบนเก้าอี้ออฟฟิศสัก 5 นาที หายใจเข้าออกลึก ๆ
เพราะเมื่อกล้ามเนื้อหลังคลาย สมองก็จะเริ่ม “รีเฟรช” ตัวเองไปพร้อมกัน

และอย่าลืมว่าเก้าอี้ที่มีระบบเอนได้แบบนุ่มนวล จะช่วยให้การพักของคุณ “ได้พักจริง ๆ” ไม่ใช่แค่เปลี่ยนท่านั่งเฉย ๆ


5. เชื่อมต่อกับคนที่เข้าใจ

ในวันที่คุณรู้สึกไม่มั่นคง การมี “เพื่อนร่วมงานดี ๆ” หรือ “พื้นที่ที่ไม่ต้องเกร็ง” คือยาชั้นดี

บางครั้งแค่การพูดคุยหรือแลกเปลี่ยนความคิดกับคนที่เข้าใจ
ก็ช่วยลดระดับความเครียดลงได้มากกว่าการเก็บไว้คนเดียวถึง 50% ตามงานวิจัยจาก American Psychological Association

อย่ากลัวที่จะพูดว่า “ฉันเหนื่อย” หรือ “ฉันกลัวตกงาน” เพราะทุกคนในยุคนี้ต่างรู้สึกแบบเดียวกัน
สิ่งสำคัญคือการยอมรับมัน แล้วค่อย ๆ หาวิธีดูแลตัวเองอย่างใจเย็น


สรุป: งานอาจไม่มั่นคง แต่ใจคุณมั่นคงได้

“Work Anxiety” ไม่ใช่เรื่องผิด และไม่ใช่สิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง
แต่คือ “สัญญาณเตือน” ให้คุณหันกลับมาดูแลตัวเองก่อนที่ร่างกายและใจจะพัง

เริ่มง่าย ๆ จากสิ่งรอบตัว เช่น การจัดมุมทำงานใหม่ หรือเปลี่ยนมาใช้ เก้าอี้ออฟฟิศ ที่รองรับสรีระได้ดี
เพราะเมื่อร่างกายผ่อนคลาย ใจก็พร้อมสู้ต่อ


อย่าปล่อยให้ความเครียดจากงานทำร้ายหลังคุณ

ถ้าคุณกำลังมองหา “เก้าอี้ทำงานที่ซัพพอร์ตใจและหลังไปพร้อมกัน”
ลองดูตัวเลือกจาก Modena ที่ออกแบบมาเพื่อคนทำงานจริง ๆ

เพราะในวันที่โลกไม่แน่นอน อย่างน้อย “หลังของคุณ” ยังมั่นคงได้เสมอ