คำถามโลกแตกของสายทำงานยุคใหม่: ทำงานคาเฟ่ หรืออยู่บ้านดีกว่า?
คนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะสาย Gen Z และ Freelance Creative มักมีไลฟ์สไตล์ทำงานตามคาเฟ่
บรรยากาศดี เพลงชิล ถ่ายรูปอัป IG ได้ แต่…
ลองนั่งทำงานจริงจัง 5 ชั่วโมงบนเก้าอี้ไม้แข็งๆ ดูสิ
ปวดหลัง ปวดคอ ปวดตา แถมต้องรีบจบงานเพราะเกรงใจโต๊ะข้างๆ
นั่นแหละคือสัจธรรมของ “Café Working” ที่อาจเหมาะแค่บางวัน
แต่ไม่ใช่คำตอบของการ “ทำงานให้ดีแบบยั่งยืน”
ทำไมคาเฟ่ถึงไม่เหมาะกับการทำงานจริงๆ?
-
เก้าอี้ไม่ Support หลังเลย – คาเฟ่ส่วนใหญ่ออกแบบเน้นสวย ไม่ใช่เพื่อการนั่งนาน
-
ปลั๊ก/เน็ตไม่เสถียร – สายประชุม Zoom หรืองานหนักๆ อาจสะดุด
-
เสียงรบกวน + ความวุ่นวาย – เสียงเครื่องชงกาแฟ คุยโต๊ะข้างๆ เบรกโฟกัสคุณได้ง่ายมาก
-
⏱️ แรงกดดันให้รีบลุก – โดยเฉพาะถ้าคนเยอะ หรือโต๊ะมีเวลาใช้งานจำกัด
แล้ว “ทางเลือกที่ดีกว่า” คืออะไร?
คือการ ลงทุนสร้างมุมทำงานของตัวเองที่บ้าน
ให้กลายเป็น Working Zone ที่ Support ทั้งกายและใจ
และสิ่งสำคัญที่สุดที่หลายคนมองข้ามคือ…
เก้าอี้สำนักงานที่ดี คือเพื่อนคู่ใจในการนั่งทำงานที่ยาวนานและสบายที่สุด
แนะนำ: เก้าอี้สำนักงาน Master – ตัวจริงเรื่องนั่งทำงาน
Master เป็นเก้าอี้ที่ออกแบบมาเพื่อลดภาระหลังและเพิ่ม productivity:
-
✅ พนักพิงโค้งรับสรีระ ทำจากผ้าตาข่าย Mesh ระบายอากาศได้ดี
-
✅ เบาะหนา 8 ซม. รองรับแรงกด ลดอาการปวดสะโพก
-
✅ ปรับเอนและล็อกได้ทุกองศา ให้คุณได้พักในจังหวะที่ใช่
-
✅ ที่วางแขนปรับได้ 6 ทิศทาง เหมาะกับทุกท่าทำงาน ไม่ว่าจะเขียน วาด หรือพิมพ์
นั่งนานแค่ไหนก็ยังไหว เพราะเก้าอี้นี้เกิดมาเพื่อ “นั่งทำงาน” จริงๆ
Work from Home ให้เวิร์ก: ไม่ใช่แค่ Wi-Fi ต้องแรง แต่ “เก้าอี้” ก็ต้องพร้อม
ถ้าคุณอยากโฟกัสงานได้ยาวๆ แบบไม่ต้องหงุดหงิดกับอาการปวดหลัง
อยากนั่งประชุม Zoom แบบไม่ต้องเปลี่ยนท่านั่งตลอดเวลา
อยากรู้สึกว่า “บ้านก็คือออฟฟิศที่ดีที่สุด”
แค่เลือก เก้าอี้สำนักงานที่ดี – อย่าง Master – ก็เปลี่ยนโลกการทำงานของคุณได้แล้ว
สรุปส่งท้าย:
คาเฟ่คือทางเลือกที่ดี “บางวัน”
แต่เก้าอี้ดีๆ ที่บ้านคือทางรอดที่แท้จริงของคนที่ทำงานทุกวัน
ถึงเวลายกระดับ Work from Home ด้วยการเปลี่ยน “เก้าอี้ธรรมดา”
เป็น เก้าอี้สำนักงาน Master แล้วคุณจะเข้าใจคำว่า “นั่งแล้วใจสงบ” มันเป็นยังไง